ASUS Eee Box B206 เดสก์ทอปพีซี เล็กที่สุดในโลก

| Saturday 6 June 2009

รองรับภาพและเสียงระดับ HD สุดยอดความบันเทิงในบ้าน พร้อมประหยัดพลังงานดีเยี่ยม

อัสซุส เผยโฉม HD เดสก์ทอปพีซี รุ่นใหม่ Eee Box B206 พีซีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ขนาดกะทัดรัด สามารถเชื่อมต่อ HDMI เพื่อการชมภาพสมจริงได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการประหยัดพลังงาน และเนื้อที่ในการจัดวาง ด้วยปริมาตรเพียง 1 ลิตร ขนาดเทียบได้กับหนังสือนวนิยาย

ASUS Eee Box B206 มาพร้อมคุณสมบัติ HD (Hi-Definition) ภาพความละเอียดสูง โดยการต่อผ่านช่อง HDMI สู่จอ LCD TVs, Monitors, Projectors หรือ Home Theater Receiver พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายในการดูหนัง ฟังเพลง ด้วย Remote Control ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานคู่กับ Eee Cinema ซอฟแวร์ที่ใช้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงแบบออลอินวัน ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูรูปหรือดูหนังแบบโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ก็เพียบพร้อมด้วยอรรถรสความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น ASUS Eee Box B206 สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง กว่า 8 เท่าของระดับมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัวที่มองหาประสิทธิภาพการใช้งานที่ง่าย และประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน

ด้วยหลักการออกแบบตามหลักปรัชญาของ Green ASUS ที่เลือกใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ข้อกำหนดมาตรฐานของ RoHS และ WEEE นอกจากนี้ Eee Box สามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 90% ด้วยอัตราการใช้ไฟเพียง 20 วัตต์ ซึ่งแตกต่างจากเดสก์ทอปพีซีขนาดปกติ ทั้งนี้ ผู้ที่เปิดเครื่องใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง จะสามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 6,950 บาทต่อปี

สัมผัสกับความสามารถที่มากมาย และเป็นเจ้าของอัสซุส Eee Box รุ่น B206 ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ด้วยราคาเพียง 14,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ลอจิเทคนำเสนอสินค้าใหม่เอาใจผู้ใช้โน้ตบุ๊ค

|

คุณหรือใครๆ ต่างก็รักโน้ตบุ๊คสุดห่วงของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ยังมีเรื่องให้ห่วงอย่างหนึ่งนั่นคือความร้อนที่เกิดจากเครื่องระหว่าง ใช้งาน

คุณหรือใครๆ ต่างก็รักโน้ตบุ๊คสุดห่วงของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ยังมีเรื่องให้ห่วงอย่างหนึ่งนั่นคือความร้อนที่เกิดจากเครื่องระหว่าง ใช้งาน เลยพาลให้หลายคนไม่ค่อยอยากจะหยิบโน้ตบุ๊คมาใช้งานเพราะกลัวว่าความร้อนจะ เป็นเหตุให้โน้ตบุ๊คสุดรักต้องพังเสียก่อน ทว่าวันนี้ ลอจิเทคได้นำเสนอ Logitech Cooling Pad N100 และ Logitech Notebook Riser N110 เพื่อขยายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับโน้ตบุ๊คที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานมี ประสบการณ์การทำงานร่วมกับโน้ตบุ๊คตัวโปรดที่บ้านได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ในขณะที่ ปัจจุบันผู้ใช้สามารถนำเอาโน้ตบุ๊คไปใช้งานที่ไหนก็ได้ทั่วบริเวณบ้าน แต่ผลการวิจัยของ Logitech พบว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่อยากจะได้ความสะดวกในการใช้โน้ตบุ๊คภายในบริเวณบ้านต้อง เสียความสบายของการใช้งานไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามนั่งใช้งานโน้ตบุ๊คบนโซฟา อย่างไรก็ตาม กว่า 50% มีความกังวลในเรื่องของความร้อนที่เกิดจากเครื่องเมื่อใช้งาน และในจำนวนนั้น 43% เชื่อว่าความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้เครื่องทำงานช้าลงหรือทำความเสียหายให้กับ โน้ตบุ๊ค ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับกลุ่มแรกเพียงอย่างเดียว เพราะผู้ตอบแบบสอบถามอีกกว่า 64% ใช้คอมพิวเตอร์ของเขาบนโต๊ะ แต่มีถึง 41% ที่กังวลว่าปัญหาความร้อนจะทำความเสียหายกับคอมพิวเตอร์ของเขาได้เช่นกัน

“เราสามารถแบ่งผู้นิยมใช้งานโน้ตบุ๊คในบ้านได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ใช้ที่จัดพื้นที่การทำงานเป็นสัดเป็นส่วนหรือมีโต๊ะทำงาน และอีกกลุ่มคือผู้ใช้ที่ชอบใช้งานคอมพิวเตอร์ในห้องนั่งเล่น” มร. เดนนิส พาวิลลาร์ด รองประธานฝ่ายการตลาดสินค้ากลุ่มคีย์บอร์ดและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของลอจิเทค กล่าวและว่า “Logitech นำเสนอทางออกด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์คู่ใจได้ทุกที่ในบ้านได้สะดวกและสบายอย่างแท้ จริง”

Logitech Cooling Pad N100

ลอจิเทคเข้าใจถึงความต้องการเป็นอย่างดี จึงแนะนำผลิตภัณฑ์ Cooling Pad N100 และ Notebook Riser N110 ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกและสบายเหมือนอย่างที่เคยแนะนำผลิตภัณฑ์อย่าง Comfort Lapdesk Logitech Cooling Pad N100 อุปกรณ์ช่วยเป่าลมร้อนออกจากโน้ตบุ๊ค

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสกับความสะดวกสบายได้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะใช้งานโน้ตบุ๊คบนโซฟา บนเตียงนอน หรือบนโต๊ะทำงานซึ่งกำลังเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดและเมาส์ Logitech Cooling Pad N100 จะทำหน้าที่จัดการกับกระแสลมรอบๆ เครื่อง ช่วยเป่าลมเย็นไล่ลมร้อน จัดการปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นได้ดีเยี่ยม
และการมีช่องอากาศที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้พัดลมที่ใช้พลังงานจากพอร์ต USB สามารถทำงานเงียบกริบและสร้างลมเย็นราบรื่น

Logitech Cooling Pad N100 มีช่องรับอากาศอยู่ด้านหลัง ไม่เหมือนกับอุปกรณ์ทั่วไปที่รับลมจากหลายช่องทาง ซึ่งทำให้อากาศถูกกีดขวางจากตัวเครื่องโน้ตบุ๊คเอง และข้อดีอีกประการหนึ่งของการออกแบบทางเข้าแบบนี้ นั่นคือสามารถป้องกันฝุ่นและความเสียหายจากชิ้นส่วนที่อาจจะหลุดเข้าไปได้ ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบขั้นสูง

Cooling Pad N100 จึงใช้พลังงานน้อยกว่า ด้วยการออกแบบสาย USB ที่เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ให้มีผลกระทบต่อพลังงานในแบตเตอร์รี่น้อยที่สุด และมีพลังงานเท่าที่จำเป็นสำหรับถูกนำมาจัดการสร้างลมเย็นให้กับโน้ตบุ๊ค

Logitech Notebook Riser N110

แท่นรองโน้ตบุ๊คเพื่อเพิ่มความสบายในการใช้งาน ขณะที่ใช้โน้ตบุ๊คบนโต๊ะทำงานหรือโต๊ะอื่นๆ ในบ้าน Logitech Notebook Riser N110 ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์สำหรับยกตัวเครื่องโน้ตบุ๊ค และให้จอภาพอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการมองที่ชัดเจนกว่า

Notebook Riser N110 สามารถทำงานร่วมกับกับคีย์บอร์ดและเมาส์ตัวเก่งของคุณได้เป็นอย่างดี เช่น เมาส์นาโน รุ่น Logitech V550 Nano และ คีย์บอร์ดไร้สายสำหรับโน้ตบุ๊ค รุ่น Logitech diNovo เพื่อช่วยให้ข้อมือของคุณขณะใช้งานอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

Notebook Riser N110 สามารถปรับองศาความเอียงได้หลายระดับ ตั้งแต่ 20, 30 และ 40 องศา และฐานรองรับทำจากยางที่สามารถหมุนปรับตำแหน่งการใช้งานเพื่อความสบายที่สุด Notebook Riser N110 พับเก็บและเคลื่อนย้ายได้สะดวก

อย่างไรก็ตาม ลอจิเทคไม่ได้หยุดแค่การนำเสนอความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Cooling Pad N100 และ Notebook Riser N110 ต่างมีสีสรรและทรวดทรงที่เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานได้อย่างลง ตัว ด้วยพื้นสัมผัสสีเทาอ่อนและมีการเน้นที่สีเขียวเข้มและขอบที่โค้งมน ทำให้ Cooling Pad N100 และ Notebook Riser N110 ดูดีในทุกที่ที่คุณนำไปใช้

Logitech Comfort Lapdesk for Notebooks - อิสระแห่งความสบายในทุกมุมของบ้านคุณ

สินค้ารุ่นนี้ถูกเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ของปีนี้ที่ผ่านมา Logitech Comfort Lapdesk เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสำหรับป้องกันความร้อนและยังเสริมความมั่นคงระหว่าง การใช้งานโน้ตบุ๊คบนโซฟา บนเตียงนอนหรือแม้กระทั่งบนพื้น Comfort Lapdesk หนาถึง 4 ชั้น จึงสามารถป้องกันความร้อนที่เกิดจากการใช้งานโน้ตบุ๊คได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่กำลังใช้งานโน้ตบุ๊ค แผ่นรองรุ่น Comfort Lapdesk สามารถปรับให้เรียบแบนได้และด้วยพื้นผิวด้านใต้ที่มีรูปทรงเพียว จึงง่ายต่อการเลื่อนโน้ตบุ๊คไปมาบนโซฟาหรือบนเตียง หรือผู้ใช้สามารถพับส่วนหนึ่งตั้งขึ้นเพื่อการนั่งใช้งานบนโซฟา

ท่องเน็ตด้วย BenQ nScreen i91 และ i221

| Saturday 30 May 2009



เบ็นคิว รุกตลาด PC ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ nScreen i91 และ i221 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ PC สารพัดประโยชน์เครื่องแรกของตลาด ที่ได้รับการออกแบบสำหรับการท่องอินเทอร์เน็ตโดยมีระบบตั้งค่าคำสั่งต่างๆ ที่ง่ายดายเสมือนเครื่องใช้ในครัวเรือนทั่วไป

เครื่องคอมพิวเตอร์ nScreen i91 และ i221ไม่มีสายต่อเชื่อมโยงรุงรัง เพียงเปิดเครื่อง ผู้ใช้ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีด้วยการติดตั้งและระบบการป้อน คำสั่งอันสะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์รุ่นนี้ยังใช้หน้าจอความละเอียดสูง (High-definition ) ไวด์สกรีนอัตราส่วน 16:9 และ รุ่น nScreen i221 ยังสนับสนุนระบบ Full HD

ผู้ใช้ยังสามารถเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์เสริมของ nScreen ซึ่งสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสารทางเสียงหรือ Voice Over Internet Protocol (VoIP) ร่วมกับเว็บแคม 1.3 ล้านพิกเซล ที่ติดตั้งในเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยและเห็นภาพคู่สนทนาไปพร้อมกันได้อย่างสะดวกง่าย ดายในราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้

เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้ nScreen i91และ i221 ยังประกอบด้วยระบบเสริมมากมาย สำหรับผู้สูงอายุ เครื่อง nScreen i91และ i221 มีระบบเพิ่มความชัดให้แก่หน้าจอ ทำให้การอ่านข้อความง่ายขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ยังประกอบด้วยระบบการทำงานสำหรับผู้สูงวัย เพื่อลดสัญญาณความถี่เสียง (audio frequencies) ทำให้เสียงชัดเจนขึ้นด้วย ผู้ใช้สามารถเปิดฝาปิดหลังหน้าจอเพื่ออัพเกรดฮาร์ดไดรฟและชิปส์หน่วยความจำ โดยไม่ต้องใช้ไขควงหรือเครื่องมืออื่นใด

ซัมซุงเปิดฉากรุกธุรกิจโน้ตบุ๊คในประเทศไทย

|

ย้ำภาพ “Largest Semiconductor and LCD Panel Manufacturer” อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระดับผู้นำของซัมซุง

-ย้ำภาพ “Largest Semiconductor and LCD Panel Manufacturer” อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระดับผู้นำของซัมซุงในการผลิตชิ้นส่วนโน้ตบุ๊คที่ส่งผลให้เกิด ความเหนือชั้นในด้านดีไซน์ พ่วงสุดยอดนวัตกรรม สร้างความคุ้มค่าสูงสุด อาทิ คีย์บอร์ดซิลเวอร์นาโน ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพ ชิพประมวลผลขุมพลังประสิทธิภาพ ฯลฯ
-ส่งนวัตกรรมล่าสุด “Lighter Than Air” ครั้งแรกกับโน้ตบุ๊คนิยามใหม่ของความ “บาง เบา เร็วติดจรวด” สู่อีกขั้นแห่งความคล่องตัวในการใช้งานทุกที่ทุกเวลา ด้วยแบตเตอรี่เทคโนโลยีซัมซุงที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 ชั่วโมง พร้อมวัสดุแม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์ที่เบาและทนทาน
-เปิดตัว 4 ซีรีส์ ด้วยไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ในตระกูล “X-Series” พร้อมมินิโน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง “NC10” ตอบสนองความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจองค์กร เอสเอ็มบี รวมถึงโฮมยูสเซอร์ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีทะลุ 25,000 เครื่อง

กรุงเทพฯ (13 พฤษภาคม 2552) – ซัมซุงผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอภาพแอลซีดีรายใหญ่ของโลก ประกาศเดินหน้าธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและมินิโน้ตบุ๊คในประเทศไทยอย่าง เป็นทางการ ส่งทัพสินค้าใหม่ครบไลน์อัพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ อย่างครอบคลุมด้วยแนวคิดสุดยอดด้านเทคโนโลยีการดีไซน์ “Lighter Than Air” ที่จะตอบโจทย์การเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับลูกค้าด้วยความบางเฉียบและเบาอย่าง เหลือเชื่อ ผสานนวัตกรรมที่เป็นที่สุดแห่งความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสำหรับคอมพิวเตอร์ พกพาในยุคปัจจุบัน อาทิ ชิพประมวลผลอัจฉริยะจากอินเทล การใช้เฮลท์เทคโนโลยีด้วยคีย์บอร์ดเคลือบสารซิลเวอร์นาโน เทคโนโลยีแบตเตอรี่แผง 6 เซลล์ ของซัมซุงใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล ชูผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ได้แก่ โน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงจาก “X-Series” ได้แก่ “ซัมซุง X460” และ “ซัมซุง X360” รวมถึง มินิโน้ตบุ๊คน้ำหนักเบา “ซัมซุง NC10” ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายทะลุ 25,000 เครื่อง มั่นใจการเปิดทำตลาดโน้ตบุ๊คในประเทศไทยจะสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ พันธมิตรธุรกิจและผู้บริโภคในกลุ่มลูกค้าองค์กร ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงผู้ใช้งานตามบ้าน

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจคอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊คในประเทศไทยปีนี้ คาดว่าจะยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณตลาดรวมปีนี้ กว่า 1 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของโน้ตบุ๊คระดับพรีเมียมและมินิโน้ตบุ๊ค และเพื่อเป็นการตอบรับกระแสการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของอุตสาหกรรม ซัมซุงจึงได้นำธุรกิจโน้ตบุ๊คและมินิโน้ตบุ๊คเข้ามาทำตลาด ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้ โดยเน้นจุดเด่นของซัมซุงในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการออกแบบ อันโดดเด่นด้วยความเบาและบางเฉียบตามแนวคิด ‘Lighter Than Air’ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์พกพา และมุ่งสร้างสรรค์ความคุ้มค่าสูงสุดสู่ผู้บริโภคจากการผสานนวัตกรรมที่เป็น ที่สุดเข้าไว้ในโน้ตบุ๊คซัมซุง อาทิ ชิพประมวลผลประสิทธิภาพสูงจากอินเทล การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology ด้วยการเคลือบสาร ซิลเวอร์นาโนเพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือ ของโน้ตบุ๊คทุกรุ่นได้ถึง 99.9% รวมถึงการใช้เทคโนโลยีของทางซัมซุงเองในฐานะผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่ทำให้ ได้แบตเตอรี่พิเศษที่สามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง การใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ ข้อมูล และอื่นๆ โดยปีนี้ซัมซุงจะทำการเปิดตัวไลน์อัพสินค้ารวมทั้งสิ้น 4 ซีรีส์ ครอบคลุมความต้องการในทุกด้านของผู้บริโภค ในทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่การใช้งานด้านธุรกิจ (SMB) ไปจนถึงระดับผู้ใช้งานตามบ้าน (Home User) โดยตั้งเป้ายอดขายรวมสิ้นปีไว้ที่ 25,000 เครื่อง จากการตอกย้ำจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ล้ำสมัยและความเหนือระดับแห่งประสิทธิภาพ ที่ล้ำหน้าของผลิตภัณฑ์”

“สำหรับการทำตลาดในช่วงเริ่มต้นในประเทศไทย ซัมซุงใช้กลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการเพื่อการใช้งานของผู้บริโภค ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการดีไซน์ ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างครอบคลุม โดยในปีนี้เราจะเน้นหนักในการสร้างกระแสรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ซัมซุงโน้ต บุ๊คภายในประเทศด้วยการร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจเพื่อจัดกิจกรรมการตลาดและเส นอแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์และสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้บริโภค โดยเราจะมีการปรับดิสเพลย์หน้าร้านให้น่าดึงดูดใจ และมีผลิตภัณฑ์สาธิตที่สามารถทดสอบการใช้งานจริง ทั้งนี้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ บริโภค เมื่อบวกกับความแข็งแกร่งทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่ซัมซุงมีอยู่แล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดไอที เราจึงมีความพร้อมเป็นอย่างสูงในการขยายธุรกิจต่อยอดความสำเร็จของซัมซุงสู่ ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อเป็น อีกกลยุทธ์หนึ่งในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของตลาดไอทีในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์มอนิเตอร์ในตลาดโลกและ ประเทศไทย และยังรั้งอันดับสองในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์พรินเตอร์ขนาด A4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชเนียอีกด้วย” นายบุญเลิศกล่าว

ปรากฏการณ์ ‘Lighter Than Air’ เบาสุด-บางเฉียบ มาตรฐานใหม่ของโน้ตบุ๊ควันนี้

ซัมซุงมีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ล้ำสมัยและความเหนือระดับแห่งประสิทธิภาพ ที่ล้ำหน้าของผลิตภัณฑ์ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ซัมซุงเป็นผู้นำระดับโลกอยู่ แล้วทั้งแอลอีดีแบ็คไลท์เพื่อให้ความสว่างและคมชัดแก่หน้าจอของโน้ตบุ๊ค อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการที่ซัมซุงเป็นผู้ผลิตชิพ Semiconductor และจอภาพ แอลซีดีรายใหญ่ของโลก โน้ตบุ๊คซัมซุงจึงใช้ชิ้นส่วนที่ซัมซุงเป็นผู้ผลิตเองทั้งหน่วยความจำ แบตเตอรี่ และจอภาพ ซึ่งการให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศด้านงานผลิตของซัมซุงส่งผลให้ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ ความไว้วางใจในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฮาร์ดไดรฟ์ความเร็วสูงแบบ Solid State Drive – SSD สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบ HDD อย่างชัดเจน โดยสามารถบู๊ทส์เครื่องได้เร็วขึ้น 25-50% อ่านข้อมูลและบันทึกข้อมูลได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ฮาร์ดไดรฟ์แบบ SSD ยังไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวในขณะทำงานจึงทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า ใช้พลังงานน้อยลง และมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดหรือความเสียหายได้น้อยกว่า รวมถึงสามารถรับแรงกระแทกได้สูงกว่ารุ่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ถึงสองเท่าทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วย นอกจากประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยีที่ได้จากชิพประมวลผลอัจฉริยะขุมพลังอินเท ลแล้ว ซัมซุงยังสร้างเสริมมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้น ประโยชน์สูงสุด ต่อผู้ใช้งาน อาทิ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology (เอกสิทธิ์ของซัมซุง) ด้วยการเคลือบสารซิลเวอร์นาโนบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือของโน้ตบุ๊คทุก รุ่น ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ช่วยสร้าง ความมั่นใจในด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คที่ใส่ใจในเรื่องของความ สะอาดเป็นพิเศษ เป็นต้น

เพิ่มความคล่องตัวให้กับการทำงานในทุกที่ทุกเวลาด้วยแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมง พ่วงระบบความปลอดภัยข้อมูลเหนือชั้น

อีกหนึ่งความพิเศษของซัมซุงโน้ตบุ๊คคือการเลือกใช้แม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์ ที่เป็นวัสดุน้ำหนักเบาแต่มีความคงทนสูงมาเป็นวัสดุที่สร้างข้อได้เปรียบให้ กับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม “X-Series” ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถรองรับแรงกระแทกและแรงกดทับได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรามีสไตล์ แลดูล้ำสมัยสมกับเป็น โน้ตบุ๊คเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง ประโยชน์ที่เด่นชัดของน้ำหนักที่เบาเหลือเชื่อของผลิตภัณฑ์คือความคล่องตัว สูงสุดในการใช้งานนอกสถานที่ (Ultra-Mobility) ด้วยเทคโนโลยีแบตตารี่แผง 6 เซลล์สามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 10 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเสียบชาร์จใหม่ ให้ความสะดวกสบายสำหรับการพกพาเครื่องออกไปใช้งานในที่ต่างๆ ไม่ว่าคุณจะต้องการรูปแบบใดทั้งแชร์ไฟล์ แช็ท ดาวน์โหลด เขียนบล็อก ก็เป็นไปได้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้งานที่มีข้อมูลความลับสำคัญๆ เก็บไว้ภายในโน้ตบุ๊คก็สามารถวางใจได้อย่างเต็มที่กับระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ ชีวภาพ (Biometric) เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล โดยเป็นระบบที่ยืนยันตัวบุคคลเจ้าของเครื่องด้วยการเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ที่ได้รับการบันทึกไว้ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นนวัตกรรมแถวหน้าที่ใช้อยู่ในแวดวงคอมพิวเตอร์พก พาซึ่งนำเสนอความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้บริโภคที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงใน ชีวิตประจำวัน

เปิดฉากประลองตลาดไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ครบไลน์เพื่อทุกความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์

ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ซัมซุงโน้ตบุ๊คต่างเพียบพร้อมด้วยดีไซน์อันพิถีพิถัน มาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานอันน่าทึ่ง ได้ผ่านการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายในการใช้งานโน้ตบุ๊ค ประสิทธิภาพสูงที่ทั้งดูดีมีสไตล์และพกพาสะดวก โดยแบ่งออกเป็น 4 ซีรีส์ คือ “X-Series,” “Q-Series” และ “R-Series” พร้อมเสริมทัพด้วยมินิโน้ตบุ๊ค “NC-Series” ที่ให้การเชื่อมต่อในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นไปได้อย่างง่ายดายในทุกที่ทุกเวลา สำหรับตลาดในประเทศไทย ซัมซุงได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้งานตามบ้านหรือ Home User 45% และกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อรองรับความต้องการด้านธุรกิจ (SMB) 35% นอกเหนือจากนี้อีก 20% เป็นกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทางต่างๆ อาทิ เกมเมอร์ กราฟฟิคดีไซน์ หรือผู้ใช้งานออกแบบ ฯลฯ โดยซัมซุงต้องการนำเสนอมูลค่าเพิ่มในด้านของเทคโนโลยีและดีไซน์พรีเมี่ยม รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงที่สร้างความคุ้มค่าและประโยชน์สูง สุดให้กับผู้ใช้งาน โดยไลน์อัพผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คของซัมซุงในปีนี้ประกอบด้วยรุ่นต่างๆ ดังนี้

“X-Series” ตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพที่จริงจังกับคุณภาพของงาน (Result-Driven Professional) และจำเป็นต้องทำงานนอกสถานที่อยู่เป็นประจำ โดยไม่ลืมใส่ใจในดีไซน์พรีเมี่ยมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์อันทันสมัย นำทัพโดยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์อย่างรุ่น “X360” และ “X460” เพียบพร้อมด้วยความสามารถและจุดเด่นที่ความบางและเบาเป็นพิเศษเพื่อความ คล่องตัวสูงสุดในการพกพากับขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว และ 14.1 นิ้ว ตามลำดับ โดยรุ่น “X360” มาพร้อมฉายา “Lighter Than Air” เป็นโน้ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้วที่บางที่สุดและมีน้ำหนักน้อยนิดเพียง 1.29 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากการใช้วัสดุพรีเมี่ยม “แม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์” ที่เบา ทนทานและให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ยาวนานอย่างเหลือเชื่อถึง 10 ชั่วโมงด้วยแบตตารี่แผง 6 เซลล์ ทั้งสองรุ่นยังรองรับหน้าจอแอลซีดี 300 Nits SuperBright LED Backlit ล่าสุดของซัมซุง วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 58,700 บาท*

“Q-Series” เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมัลติมีเดียและธุรกิจทั่วไป ตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากเผยความเป็นตัวตนที่ดูดีมีรสนิยมพร้อมความ เป็นโปรเฟสชันแนลและมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบ “คริสตัลดีไซน์ (Crystal Design)” เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุง เน้นเอฟเฟ็คของเส้นสีแดงทับทิมที่ช่วยขับให้ผิวดำเงาวับแบบเปียโนแบล็คของ “Q-Series” ยิ่งดูหนักแน่นสวยงาม โดยโน้ตบุ๊ครุ่น “Q210” ขนาดหน้าจอ 12.1 นิ้ว และรุ่น “Q310” หน้าจอ 13.3 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีประมวลผล Intel Centrino 2 และ Intel Core 2 Duo processor ตามลำดับ มาพร้อมความเหนือชั้นด้วยประสิทธิภาพการแสดงผลของกราฟิคการ์ด nVIDIA GeForce 9200M GS วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 23,400 บาท*

“R-Series” เพื่อผู้บริโภคที่เน้นความคุ้มค่าด้วยความทนทานเป็นเลิศและสไตล์อันนำสมัย โดยรุ่น “R450” ขนาดหน้าจอ 14.1 นิ้ว รุ่น “R510” หน้าจอ 15.4 นิ้ว และรุ่น “R610” หน้าจอ 16 นิ้ว มีความสวยงามโดดเด่นด้วยชิ้นฝาปิดเคลือบผิวไฮกลอสแบบ Aura ป้องกันการขูดขีด พร้อมตัวเครื่องโครงสร้างแบบ Protect-o-Edge ที่แข็งแกร่งพร้อมปกป้องตัวเครื่องจากการกระทบกระแทกที่ต้องประสบในการใช้ งานประจำวัน นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยรุ่น “R560” ขนาดหน้าจอ 15.4 นิ้ว ที่พิเศษด้วยความสามารถด้านกราฟิคเพื่อนักเล่นเกม 3D และนักออกแบบงานกราฟฟิค ตลอดจนรุ่น “R460” ขนาดหน้าจอ 14.1 นิ้ว ที่ผสานประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการพกพาไว้ได้อย่างลงตัว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 21,200 บาท*

“NC10” เหมาะสำหรับเน็ตเลิฟเวอร์หรือผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกจากการเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ตในสถานที่ต่างๆ ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ การพรีเซ็นต์งานนอกออฟฟิศ หรือเช็คอีเมล์ขณะเดินทาง มินิโน้ตบุ๊คที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มหน้าจอ 10.2 นิ้ว ด้วยน้ำหนักเพียง 1.33 กิโลกรัม และหนาเพียง 1.19 เซนติเมตร แต่ให้ความสะดวกสบายในการพิมพ์งานด้วยคีย์บอร์ดไซส์ปกติเท่ากับโน้ตบุ๊คทั่ว ไป สามารถวางมือได้อย่างสะดวก ให้การทำงานที่รวดเร็วและลดความผิดพลาดในการพิมพ์ลงได้ นอกจากนี้ “NC10” ยังใช้ขุมพลังประสิทธิภาพเกินตัวด้วยชิพประมวลผล 1.6GHz Intel Atom ซึ่งเป็นชิพที่เล็กที่สุดของอินเทล ทำให้ “NC10” เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังในขนาดที่เล็กและเบากว่ามินิโน้ตบุ๊คทั่วไป ไร้ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวด้วยระบบแบตตารี่แผง 6 เซลล์ที่ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง พร้อมด้วยฮาร์ดดิสก์ความจุ 160 กิกะไบต์ มินิโน้ตบุ๊ค “NC10” จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในน้ำหนักที่เบาเสมือนปุยนุ่นสำหรับผู้ใช้งานใน ทุกไลฟ์สไตล์ โดยมินิโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งในประเทศที่ได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้ว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 18,000 บาท*

เอเซอร์ ผนึก อินเทล ประกาศพลิกโฉมนวัตกรรมโน้ตบุ๊กครั้งยิ่งใหญ่

| Wednesday 20 May 2009

ประกาศจุดยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาแบตเตอร์รี่ที่ให้ระยะเวลาการทำงานกว่า 8 ชั่วโมง และเทคโนโลยีอินเทลซีพียูที่ประหยัดพลังงานสูงสุด

กรุงเทพฯ: 18 พฤษภาคม 2552: บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้นำอันดับ 1 ในตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมในประเทศไทย จับมือ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ (Aspire Timeline) ประกาศจุดยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาแบตเตอร์รี่ที่ให้ระยะเวลาการทำงานกว่า 8 ชั่วโมง และเทคโนโลยีอินเทลซีพียูที่ประหยัดพลังงานสูงสุดด้วยโซลูชั่น อินเทล คอร์2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ อัลตร้า โลว์ โวลเทจ (Intel Core 2 Duo processor Ultra Low Voltage หรือ CULV) และพบกับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ด้วยดีไซน์ที่ บางเบาไม่ถึง 1 นิ้ว เรียบง่าย แต่มีสไตล์ พร้อมลงตลาดแล้ววันนี้

นายอลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์” คือการพลิกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเอเซอร์อีกครั้งหนึ่งในเรื่องของนวัต กรรมและดีไซน์ ซึ่งเราเป็นรายแรกที่นำเสนอโน้ตบุ๊กที่สามารถใช้งานแบตเตอร์รี่ได้นานต่อ เนื่องกว่า 8 ชั่วโมง ลดการใช้พลังงานลง และเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ถึง 40% นิยามของโน้ตบุ๊กในวันนี้คือให้อิสระเสรีกับจินตนาการของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ เทคโนโลยี คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และไม่มีข้อจำกัดของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการใช้งาน ผู้นำที่แท้จริงคือผู้ที่สามารถคิดค้นและนำเสนอเทคโนโลยีไร้ขีดจำกัดโดยไม่ มีเงื่อนไข

นายอลัน กล่าวเพิ่มเติมว่า เอเซอร์ได้มีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ โดยได้มีการดำเนินการในผลิตภัณฑ์ในวงกว้าง ไม่เพียงแต่แตกต่างทางรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นแต่ยังรวมถึงนวัตกรรมและฟี เจอร์ต่างๆ เต็มรูปแบบ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องในการใช้งานของกลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้า หมายอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ผู้นำทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้งานที่ให้ความสนใจอย่างยิ่งในเรื่องของเทคโนโลยีและนวัต กรรม ที่มองว่าเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่อีกขั้นหนึ่ง

นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเปิดตัวแอสไปร์ ไทม์ไลน์ในวันนี้ นับเป็นครั้งแรกของการแนะนำ อินเทล คอร์2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ อัลตร้า โลว์ โวลเทจ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของอินเทลออกสู่ตลาดในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม สำหรับโน้ตบุ๊กซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์บางเฉียบ ตลอดจนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานยิ่งขึ้น จะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบัน ในด้านความคล่อง ตัวและการพกพาสะดวกมากขึ้นได้เป็นอย่างดี จากการที่อินเทลสามารถพัฒนาโปรเซสเซอร์รุ่นนี้ให้มีขนาดเล็กลง 58 เปอร์เซ็นต์ ทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นนี้อย่าง แอสไปร์ ไทม์ไลน์ สามารถออกแบบให้มีขนาดบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ประกอบกับอินเทล ลามินาร์ วอลล์ เจท (Intel Laminar Wall Jet) เทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยลดความร้อนของคอมพิวเตอร์ ยังช่วยแต่งเติมลูกเล่นในเรื่องของการดีไซน์ให้เก๋ไก๋และทันสมัยได้มากขึ้น ในวันนี้สามารถพูดได้อย่างเต็มที่ว่า เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี อัลตร้า โลว์ โวลเทจ (Ultra Low Voltage) จึงเป็นทุกคำตอบที่ลูกค้ามองหาในราคาที่สัมผัสได้”

นายบุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ ถูกออกแบบมาให้แบตเตอร์รี่สามารถรองรับใช้งานได้นานติดต่อกันกว่า 8 ชั่วโมง เพียงคุณชาร์จแบตเตอร์รี่ครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม และเทคโนโลยี Acer Power Smart Adapter ที่จะคอยควบคุมโน้ตบุ๊กของคุณให้มีพลังงานมากขึ้น ทำให้การทำงานของอแดบเตอร์กินไฟน้อยกว่าถึง 66 เปอร์เซ็นต์

เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่มีฝาปิดทำจากวัสดุพิเศษ อลูมินั่ม ที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และหน้าจอบางเฉียบเพียง 24 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวเครื่องเป็นสีเทาแมตทาลิก ดูเรียบหรู มีสไตล์ พร้อมวางตลาด 7 ซีรี่ย์ โดยมีขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว มีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ได้แก่ Aspire 3810TZ, Aspire 3810T และ Aspire 3810TG ซีรี่ย์ ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว หนักเพียง 1.9 กิโลกรัม ได้แก่ Aspire 4410T, Aspire 4810TZ, Aspire 4810T และ Aspire 4810TG ซีรี่ย์ รวม 11 รุ่นที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน มาพร้อมกับเทคโนโลยีอินเทลซีพียู Consumer Ultra Low Voltage (CULV) ซึ่งกินไฟน้อยและช่วยประหยัดพลังงาน, เทคโนโลยีสุดล้ำ Intel Laminar Wall Jet ช่วยลดอุณหภูมิบริเวณตัวเครื่องของโน้ตบุ๊ค 2-8 องศาทำให้ผู้ใช้ไมรู้สึกร้อนเมื่อวางบนตัก, เทคโนโลยี Acer CineCrystal ที่ให้ภาพสว่างคมชัดสมจริง ด้วยหน้าจอแบบ LED 16:9 High Definition พร้อมติดตั้งเว็บแคม Acer Crsytal Eye ในตัว ให้คุณภาพเสียงสมจริงด้วยระบบ Dolby Sound Room

นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกในการพิมพ์ด้วย Floating Keyboard ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ปุ่มคีย์บอดที่แยกจากกัน และทัชแพดที่รองรับการควบคุมด้วยวิธีสัมผัสนิ้วได้หลากหลายรูปแบบ (multi-gesture) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเฉพาะของเอเซอร์ Acer Power Smart Key ที่ช่วยประหยัดพลังงานทำให้ใช้งานแบตเตอร์รี่ได้ยาวนานมากขึ้น และ Acer Backup Manager ช่วยในการสำรองข้อมูลได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบปฎิบัติการ Windows Vista Home Premium ทั้งหมดนี้ในราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท (ไม่รวม Vat 7%)

“นอกจากแอสไปร์ ไทม์ไลน์แล้ว เอเซอร์จะได้เผยโฉมรูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์ใหม่ ซึ่งจะเป็น ผลิตภัณฑ์ แอสไปร์ โน้ตบุ๊ก และแอสไปร์ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ในกลุ่มคอนซูมเมอร์ ซึ่งพร้อมที่จะวางตลาดเร็วๆนี้

Specification

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือติดต่อสอบถามด้านเทคนิคที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4355 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th

เน็ตบุ๊กสำหรับนักเรียน"ตัวจริง"

|

ในขณะที่ผู้ผลิตเน็ตบุ๊กหลายรายต่างก็พยายามที่จะเจาะกลุ่มตลาดนักเรียน นักศึกษาให้ได้ โดยพยายามออกแบบผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน และรูปลักษณ์ของเครื่อง ล่าสุด Dell ส่ง Latitude 2100 เน็คบุ๊กที่ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้โดยเฉพาะ

หลัง จากประสบความสำเร็จกับ Dell Mini 10 เน็ตบุ๊กราคาต่ำทีให้ประสิทธิภาพการทำงานคุ้มค่ากันไปแล้ว คราวนี้ Dell กำลังเล็งไปที่ตลาดการศึกษา โดยส่ง Latitude 2100 ที่ได้รับการออกแบบตัวเครื่องให้มีสีสันสดใสสร้างความเป็นมิตรกับผู้ใช้ กลุ่มนี้ และที่ดูเท่มากๆ ก็คือ การมีสายสะพายที่ช่วยให้เจ้าของสามารถนำมันติดตัวไปไหนต่อไหนได้อย่างสะดวก ยิ่งขึ้น (เหมือนกระเป๋าสะพายไหล่ที่วัยรุ่นชอบใช้กัน) หรือจะใช้กระเป๋าที่จับแบบหู หิ้วก็ได้

นอก จากเรื่องของดีไซน์แล้ว รอบตัวเครื่องยังคลุมด้วยยางชนิดพิเศษกันกระแทกได้ เผื่อว่า เด็กนักเรียนทีมือหนักอาจจะวางเครื่องแรงจะได้ไม่เกิดความเสียหายกับ เครื่อง ส่วนคีย์บอร์ดยังมีคุณสมบัติพิเศษต่อต้านจุลินทรีย์ได้อีกต่างหาก จอ LCD ยังเป็นระบบสัมผัสอีกด้วย และไอเดียของผลิตภัณฑ์ที่ฉลาดมากๆ ก็คือ Dell Mobile Computing Staion Docking cart ซึ่งโรงเรียนสามารถเปิดให้เด็กนักเรียนในห้องสามารถนำ Latitude 2100 มาใส่เข้าไปได้พร้อมกัน 24 เครื่อง เพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์(โปรแกรม หรือการบ้าน) ให้กับเด็กๆ ด้วยสายอีเธอร์เน็ต และสายไฟสำหรับการทำงานเพียงเส้นเดียว

เน็ต บุ๊ก Dell Latitude 2100 จะมีระบบปฏิบัติการให้เลือกถึง 3 ตัวด้วยกันได้แก่ Windows Vista, XP หรือ Ubuntu 8.10 โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 369 เหรียญฯ (ประมาณ 13,300 บาท) สามารถเปลี่ยนจากฮาร์ดดิสก์ไปใช้เป็น SSD หรือเพิ่มแบตฯเป็น 6 เซล (เดิมมี 3 เซล) ได้อีกด้วย ดูแล้วเหมือนว่า Dell จะตีโจทย์เน็ตบุ๊กสำหรับนักเรียนได้แตกละเอียดกว่าทุกเจ้าเลยทีเดียว

Netbook เบากว่าหนึ่งกิโลกรัม!!!

| Monday 18 May 2009

ตลาดเน็ตบุ๊กยังคงหอมหวล เนื่องจากอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของมัน ล่าสุดบริษัที่ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไรนักอย่าง Albatron ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์เน็ตบุ๊กที่ได้รับการออกแบบให้มีความบาง และมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งจากคำอ้างของบริษัทมันมีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัมเลยเด้วยซ้ำ

เน็ต บุ๊กบางเบาของ Albatron จะมีขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว ภายในใช้ซีพียู Intel N270 1.66GHz หน่วยความจำ 1GB ส่วนฮาร์ดดิสก์จะมีให้เลือกระหว่าง 80GB กับ SSD (8GB/16GB) ไฟแสดงสถานะการทำงานบนตัวเครื่องระบุว่า มันสนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย 3G หรือ WiMAX แบตเตอรี่ 6 เซล 3600mAh อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานว่าจะใช้งานได้นานต่อเนื่องกี่ชั่วโมง

ใน ส่วนของน้ำหนักที่ทางบริษัทอ้างว่าต่ำกว่า 1 กิโลกรัม นั่นแสดงว่า มันเบากว่า Eee PC 1008HA ที่มีน้ำหนัก 1.1 กิโลกรัมเสียอีก เน็ตบุ๊กของ Albatron จะมาพร้อมกับอะแดปเตอร์สำหรับพอร์ตต่างๆ เช่น Ethernet หรือพอร์ตสำหรับต่อ VGA ภายนอก ทางบริษัทคาดว่าจะวางตลาดได้ในช่วงครึ่งปีหลัง งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เมื่อถึงเวลาดังกล่าวมันจะยังคงได้รับความสนใจ หรือไม่?