ซัมซุงเปิดฉากรุกธุรกิจโน้ตบุ๊คในประเทศไทย

| Saturday 30 May 2009

ย้ำภาพ “Largest Semiconductor and LCD Panel Manufacturer” อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระดับผู้นำของซัมซุง

-ย้ำภาพ “Largest Semiconductor and LCD Panel Manufacturer” อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระดับผู้นำของซัมซุงในการผลิตชิ้นส่วนโน้ตบุ๊คที่ส่งผลให้เกิด ความเหนือชั้นในด้านดีไซน์ พ่วงสุดยอดนวัตกรรม สร้างความคุ้มค่าสูงสุด อาทิ คีย์บอร์ดซิลเวอร์นาโน ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพ ชิพประมวลผลขุมพลังประสิทธิภาพ ฯลฯ
-ส่งนวัตกรรมล่าสุด “Lighter Than Air” ครั้งแรกกับโน้ตบุ๊คนิยามใหม่ของความ “บาง เบา เร็วติดจรวด” สู่อีกขั้นแห่งความคล่องตัวในการใช้งานทุกที่ทุกเวลา ด้วยแบตเตอรี่เทคโนโลยีซัมซุงที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 ชั่วโมง พร้อมวัสดุแม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์ที่เบาและทนทาน
-เปิดตัว 4 ซีรีส์ ด้วยไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ในตระกูล “X-Series” พร้อมมินิโน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง “NC10” ตอบสนองความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจองค์กร เอสเอ็มบี รวมถึงโฮมยูสเซอร์ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีทะลุ 25,000 เครื่อง

กรุงเทพฯ (13 พฤษภาคม 2552) – ซัมซุงผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอภาพแอลซีดีรายใหญ่ของโลก ประกาศเดินหน้าธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและมินิโน้ตบุ๊คในประเทศไทยอย่าง เป็นทางการ ส่งทัพสินค้าใหม่ครบไลน์อัพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ อย่างครอบคลุมด้วยแนวคิดสุดยอดด้านเทคโนโลยีการดีไซน์ “Lighter Than Air” ที่จะตอบโจทย์การเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับลูกค้าด้วยความบางเฉียบและเบาอย่าง เหลือเชื่อ ผสานนวัตกรรมที่เป็นที่สุดแห่งความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสำหรับคอมพิวเตอร์ พกพาในยุคปัจจุบัน อาทิ ชิพประมวลผลอัจฉริยะจากอินเทล การใช้เฮลท์เทคโนโลยีด้วยคีย์บอร์ดเคลือบสารซิลเวอร์นาโน เทคโนโลยีแบตเตอรี่แผง 6 เซลล์ ของซัมซุงใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล ชูผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ได้แก่ โน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงจาก “X-Series” ได้แก่ “ซัมซุง X460” และ “ซัมซุง X360” รวมถึง มินิโน้ตบุ๊คน้ำหนักเบา “ซัมซุง NC10” ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายทะลุ 25,000 เครื่อง มั่นใจการเปิดทำตลาดโน้ตบุ๊คในประเทศไทยจะสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ พันธมิตรธุรกิจและผู้บริโภคในกลุ่มลูกค้าองค์กร ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงผู้ใช้งานตามบ้าน

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมธุรกิจคอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊คในประเทศไทยปีนี้ คาดว่าจะยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณตลาดรวมปีนี้ กว่า 1 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของโน้ตบุ๊คระดับพรีเมียมและมินิโน้ตบุ๊ค และเพื่อเป็นการตอบรับกระแสการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของอุตสาหกรรม ซัมซุงจึงได้นำธุรกิจโน้ตบุ๊คและมินิโน้ตบุ๊คเข้ามาทำตลาด ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้ โดยเน้นจุดเด่นของซัมซุงในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการออกแบบ อันโดดเด่นด้วยความเบาและบางเฉียบตามแนวคิด ‘Lighter Than Air’ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์พกพา และมุ่งสร้างสรรค์ความคุ้มค่าสูงสุดสู่ผู้บริโภคจากการผสานนวัตกรรมที่เป็น ที่สุดเข้าไว้ในโน้ตบุ๊คซัมซุง อาทิ ชิพประมวลผลประสิทธิภาพสูงจากอินเทล การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology ด้วยการเคลือบสาร ซิลเวอร์นาโนเพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือ ของโน้ตบุ๊คทุกรุ่นได้ถึง 99.9% รวมถึงการใช้เทคโนโลยีของทางซัมซุงเองในฐานะผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่ทำให้ ได้แบตเตอรี่พิเศษที่สามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง การใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ ข้อมูล และอื่นๆ โดยปีนี้ซัมซุงจะทำการเปิดตัวไลน์อัพสินค้ารวมทั้งสิ้น 4 ซีรีส์ ครอบคลุมความต้องการในทุกด้านของผู้บริโภค ในทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่การใช้งานด้านธุรกิจ (SMB) ไปจนถึงระดับผู้ใช้งานตามบ้าน (Home User) โดยตั้งเป้ายอดขายรวมสิ้นปีไว้ที่ 25,000 เครื่อง จากการตอกย้ำจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ล้ำสมัยและความเหนือระดับแห่งประสิทธิภาพ ที่ล้ำหน้าของผลิตภัณฑ์”

“สำหรับการทำตลาดในช่วงเริ่มต้นในประเทศไทย ซัมซุงใช้กลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการเพื่อการใช้งานของผู้บริโภค ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการดีไซน์ ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างครอบคลุม โดยในปีนี้เราจะเน้นหนักในการสร้างกระแสรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ซัมซุงโน้ต บุ๊คภายในประเทศด้วยการร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจเพื่อจัดกิจกรรมการตลาดและเส นอแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์และสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้บริโภค โดยเราจะมีการปรับดิสเพลย์หน้าร้านให้น่าดึงดูดใจ และมีผลิตภัณฑ์สาธิตที่สามารถทดสอบการใช้งานจริง ทั้งนี้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ บริโภค เมื่อบวกกับความแข็งแกร่งทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่ซัมซุงมีอยู่แล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดไอที เราจึงมีความพร้อมเป็นอย่างสูงในการขยายธุรกิจต่อยอดความสำเร็จของซัมซุงสู่ ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพื่อเป็น อีกกลยุทธ์หนึ่งในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของตลาดไอทีในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์มอนิเตอร์ในตลาดโลกและ ประเทศไทย และยังรั้งอันดับสองในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์พรินเตอร์ขนาด A4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชเนียอีกด้วย” นายบุญเลิศกล่าว

ปรากฏการณ์ ‘Lighter Than Air’ เบาสุด-บางเฉียบ มาตรฐานใหม่ของโน้ตบุ๊ควันนี้

ซัมซุงมีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ล้ำสมัยและความเหนือระดับแห่งประสิทธิภาพ ที่ล้ำหน้าของผลิตภัณฑ์ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ซัมซุงเป็นผู้นำระดับโลกอยู่ แล้วทั้งแอลอีดีแบ็คไลท์เพื่อให้ความสว่างและคมชัดแก่หน้าจอของโน้ตบุ๊ค อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการที่ซัมซุงเป็นผู้ผลิตชิพ Semiconductor และจอภาพ แอลซีดีรายใหญ่ของโลก โน้ตบุ๊คซัมซุงจึงใช้ชิ้นส่วนที่ซัมซุงเป็นผู้ผลิตเองทั้งหน่วยความจำ แบตเตอรี่ และจอภาพ ซึ่งการให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศด้านงานผลิตของซัมซุงส่งผลให้ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ ความไว้วางใจในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฮาร์ดไดรฟ์ความเร็วสูงแบบ Solid State Drive – SSD สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบ HDD อย่างชัดเจน โดยสามารถบู๊ทส์เครื่องได้เร็วขึ้น 25-50% อ่านข้อมูลและบันทึกข้อมูลได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ฮาร์ดไดรฟ์แบบ SSD ยังไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวในขณะทำงานจึงทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า ใช้พลังงานน้อยลง และมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดหรือความเสียหายได้น้อยกว่า รวมถึงสามารถรับแรงกระแทกได้สูงกว่ารุ่นที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ถึงสองเท่าทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วย นอกจากประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยีที่ได้จากชิพประมวลผลอัจฉริยะขุมพลังอินเท ลแล้ว ซัมซุงยังสร้างเสริมมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้น ประโยชน์สูงสุด ต่อผู้ใช้งาน อาทิ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology (เอกสิทธิ์ของซัมซุง) ด้วยการเคลือบสารซิลเวอร์นาโนบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือของโน้ตบุ๊คทุก รุ่น ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ช่วยสร้าง ความมั่นใจในด้านสุขภาพให้กับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คที่ใส่ใจในเรื่องของความ สะอาดเป็นพิเศษ เป็นต้น

เพิ่มความคล่องตัวให้กับการทำงานในทุกที่ทุกเวลาด้วยแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมง พ่วงระบบความปลอดภัยข้อมูลเหนือชั้น

อีกหนึ่งความพิเศษของซัมซุงโน้ตบุ๊คคือการเลือกใช้แม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์ ที่เป็นวัสดุน้ำหนักเบาแต่มีความคงทนสูงมาเป็นวัสดุที่สร้างข้อได้เปรียบให้ กับรูปลักษณ์แบบพรีเมี่ยมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม “X-Series” ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถรองรับแรงกระแทกและแรงกดทับได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรามีสไตล์ แลดูล้ำสมัยสมกับเป็น โน้ตบุ๊คเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง ประโยชน์ที่เด่นชัดของน้ำหนักที่เบาเหลือเชื่อของผลิตภัณฑ์คือความคล่องตัว สูงสุดในการใช้งานนอกสถานที่ (Ultra-Mobility) ด้วยเทคโนโลยีแบตตารี่แผง 6 เซลล์สามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 10 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเสียบชาร์จใหม่ ให้ความสะดวกสบายสำหรับการพกพาเครื่องออกไปใช้งานในที่ต่างๆ ไม่ว่าคุณจะต้องการรูปแบบใดทั้งแชร์ไฟล์ แช็ท ดาวน์โหลด เขียนบล็อก ก็เป็นไปได้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้งานที่มีข้อมูลความลับสำคัญๆ เก็บไว้ภายในโน้ตบุ๊คก็สามารถวางใจได้อย่างเต็มที่กับระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ ชีวภาพ (Biometric) เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล โดยเป็นระบบที่ยืนยันตัวบุคคลเจ้าของเครื่องด้วยการเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ที่ได้รับการบันทึกไว้ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นนวัตกรรมแถวหน้าที่ใช้อยู่ในแวดวงคอมพิวเตอร์พก พาซึ่งนำเสนอความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้บริโภคที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงใน ชีวิตประจำวัน

เปิดฉากประลองตลาดไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ครบไลน์เพื่อทุกความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์

ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ซัมซุงโน้ตบุ๊คต่างเพียบพร้อมด้วยดีไซน์อันพิถีพิถัน มาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานอันน่าทึ่ง ได้ผ่านการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายในการใช้งานโน้ตบุ๊ค ประสิทธิภาพสูงที่ทั้งดูดีมีสไตล์และพกพาสะดวก โดยแบ่งออกเป็น 4 ซีรีส์ คือ “X-Series,” “Q-Series” และ “R-Series” พร้อมเสริมทัพด้วยมินิโน้ตบุ๊ค “NC-Series” ที่ให้การเชื่อมต่อในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นไปได้อย่างง่ายดายในทุกที่ทุกเวลา สำหรับตลาดในประเทศไทย ซัมซุงได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้งานตามบ้านหรือ Home User 45% และกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อรองรับความต้องการด้านธุรกิจ (SMB) 35% นอกเหนือจากนี้อีก 20% เป็นกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทางต่างๆ อาทิ เกมเมอร์ กราฟฟิคดีไซน์ หรือผู้ใช้งานออกแบบ ฯลฯ โดยซัมซุงต้องการนำเสนอมูลค่าเพิ่มในด้านของเทคโนโลยีและดีไซน์พรีเมี่ยม รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงที่สร้างความคุ้มค่าและประโยชน์สูง สุดให้กับผู้ใช้งาน โดยไลน์อัพผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คของซัมซุงในปีนี้ประกอบด้วยรุ่นต่างๆ ดังนี้

“X-Series” ตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพที่จริงจังกับคุณภาพของงาน (Result-Driven Professional) และจำเป็นต้องทำงานนอกสถานที่อยู่เป็นประจำ โดยไม่ลืมใส่ใจในดีไซน์พรีเมี่ยมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์อันทันสมัย นำทัพโดยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์อย่างรุ่น “X360” และ “X460” เพียบพร้อมด้วยความสามารถและจุดเด่นที่ความบางและเบาเป็นพิเศษเพื่อความ คล่องตัวสูงสุดในการพกพากับขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว และ 14.1 นิ้ว ตามลำดับ โดยรุ่น “X360” มาพร้อมฉายา “Lighter Than Air” เป็นโน้ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้วที่บางที่สุดและมีน้ำหนักน้อยนิดเพียง 1.29 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากการใช้วัสดุพรีเมี่ยม “แม็กนีเซี่ยมอัลลอยด์” ที่เบา ทนทานและให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ยาวนานอย่างเหลือเชื่อถึง 10 ชั่วโมงด้วยแบตตารี่แผง 6 เซลล์ ทั้งสองรุ่นยังรองรับหน้าจอแอลซีดี 300 Nits SuperBright LED Backlit ล่าสุดของซัมซุง วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 58,700 บาท*

“Q-Series” เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมัลติมีเดียและธุรกิจทั่วไป ตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากเผยความเป็นตัวตนที่ดูดีมีรสนิยมพร้อมความ เป็นโปรเฟสชันแนลและมีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบ “คริสตัลดีไซน์ (Crystal Design)” เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุง เน้นเอฟเฟ็คของเส้นสีแดงทับทิมที่ช่วยขับให้ผิวดำเงาวับแบบเปียโนแบล็คของ “Q-Series” ยิ่งดูหนักแน่นสวยงาม โดยโน้ตบุ๊ครุ่น “Q210” ขนาดหน้าจอ 12.1 นิ้ว และรุ่น “Q310” หน้าจอ 13.3 นิ้ว ใช้เทคโนโลยีประมวลผล Intel Centrino 2 และ Intel Core 2 Duo processor ตามลำดับ มาพร้อมความเหนือชั้นด้วยประสิทธิภาพการแสดงผลของกราฟิคการ์ด nVIDIA GeForce 9200M GS วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 23,400 บาท*

“R-Series” เพื่อผู้บริโภคที่เน้นความคุ้มค่าด้วยความทนทานเป็นเลิศและสไตล์อันนำสมัย โดยรุ่น “R450” ขนาดหน้าจอ 14.1 นิ้ว รุ่น “R510” หน้าจอ 15.4 นิ้ว และรุ่น “R610” หน้าจอ 16 นิ้ว มีความสวยงามโดดเด่นด้วยชิ้นฝาปิดเคลือบผิวไฮกลอสแบบ Aura ป้องกันการขูดขีด พร้อมตัวเครื่องโครงสร้างแบบ Protect-o-Edge ที่แข็งแกร่งพร้อมปกป้องตัวเครื่องจากการกระทบกระแทกที่ต้องประสบในการใช้ งานประจำวัน นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยรุ่น “R560” ขนาดหน้าจอ 15.4 นิ้ว ที่พิเศษด้วยความสามารถด้านกราฟิคเพื่อนักเล่นเกม 3D และนักออกแบบงานกราฟฟิค ตลอดจนรุ่น “R460” ขนาดหน้าจอ 14.1 นิ้ว ที่ผสานประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการพกพาไว้ได้อย่างลงตัว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 21,200 บาท*

“NC10” เหมาะสำหรับเน็ตเลิฟเวอร์หรือผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกจากการเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ตในสถานที่ต่างๆ ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ การพรีเซ็นต์งานนอกออฟฟิศ หรือเช็คอีเมล์ขณะเดินทาง มินิโน้ตบุ๊คที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มหน้าจอ 10.2 นิ้ว ด้วยน้ำหนักเพียง 1.33 กิโลกรัม และหนาเพียง 1.19 เซนติเมตร แต่ให้ความสะดวกสบายในการพิมพ์งานด้วยคีย์บอร์ดไซส์ปกติเท่ากับโน้ตบุ๊คทั่ว ไป สามารถวางมือได้อย่างสะดวก ให้การทำงานที่รวดเร็วและลดความผิดพลาดในการพิมพ์ลงได้ นอกจากนี้ “NC10” ยังใช้ขุมพลังประสิทธิภาพเกินตัวด้วยชิพประมวลผล 1.6GHz Intel Atom ซึ่งเป็นชิพที่เล็กที่สุดของอินเทล ทำให้ “NC10” เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังในขนาดที่เล็กและเบากว่ามินิโน้ตบุ๊คทั่วไป ไร้ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวด้วยระบบแบตตารี่แผง 6 เซลล์ที่ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง พร้อมด้วยฮาร์ดดิสก์ความจุ 160 กิกะไบต์ มินิโน้ตบุ๊ค “NC10” จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในน้ำหนักที่เบาเสมือนปุยนุ่นสำหรับผู้ใช้งานใน ทุกไลฟ์สไตล์ โดยมินิโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งในประเทศที่ได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้ว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 18,000 บาท*

0 comments:

Post a Comment